บทความ
ติดต่อเรา
หน้าแรก   »   มิลาน   »   GRAND SWITZERLAND NEW YEAR TRIP 2023 10D 8N

GRAND SWITZERLAND NEW YEAR TRIP 2023 10D 8N

รหัสทัวร์ KEU111011-LX

GRAND SWITZERLAND NEW YEAR TRIP 2023 10D 8N

10 วัน 8 คืน
5.0
ดำเนินการโดย:
รอลงข้อมูล
จำนวนสูงสุด:
25 คน
การสื่อสาร:
ภาษาไทย
รหัสทัวร์:
KEU111011-LX
เที่ยวบิน :

Swiss International Air Lines

ราคาดี วันนี้คุณได้ราคาทัวร์พิเศษถูกกว่ากว่าค่าเฉลี่ยในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา

ดำเนินการโดย

ไฮไลท์ทัวร์

31 แห่ง

สถานที่ท่องเที่ยว

2 จุด

จำนวนจุดแวะช้อปปิ้ง

23 มื้อ

มื้ออาหาร

ไม่มี

วันอิสระ

สถานที่ไฮไลท์

มื้ออาหาร

วันที่ เช้า เที่ยง เย็น
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
เราเตรียมมื้ออาหารให้
มื้อนี้รวมในค่าทัวร์แล้ว
มื้ออาหารอิสระ
หาทานอาหารได้ตามใจคุณ
(ไม่รวมค่าอาหาร)
ไม่มีมื้ออาหาร
มื้อนี้อยู่นอกเวลาทัวร์

โรงแรมและที่พัก

วันที่ โรงแรมและที่พัก ระดับ (ดาว)
1 HOTEL HYATT REGENCY ZURICH AIRPORT CIRCLE หรือเทียบเท่า
4
2 HOTEL RESIDENCE, VADUZ หรือเทียบเท่า
4
3 HOTEL GRAND IMPERIALE RESORT & SPA, COMO หรือเทียบเท่า
4
4 HOTEL LINDNER GRAND BEAU RIVAGE,INTERLAKEN หรือเทียบเท่า
4
5 HOTEL LINDNER GRAND BEAU RIVAGE, INTERLAKEN หรือเทียบเท่า
4
6 GORNERGRAT DORF HOTEL, ZERMATT หรือเทียบเท่า
4
7 HOTEL GORNERGRAT DORF, ZERMAT หรือเทียบเท่า
4
8 HOTEL RADISSON BLU, LUCERNE หรือเทียบเท่า
4

รายละเอียดทัวร์

🔷พิชิตยอดเขาจงเฟรา 🔷นั่งรถไฟ Bernina Express รถไฟสายเก่าแก่ที่สุด 🔷นั่งรถไฟ Glacier Express รถไฟชมวิวสายที่มีชื่อเสียงที่สุดของสวิตเซอร์แลนด์ 🔷พัก Zermatt 2 คืน เมืองตากอากาศวิวหลักล้าน
  1. วันที่ 1
    กรุงเทพ(สนามบินสุวรรณภูมิ)-ซูริค(สวิตเซอร์แลนด์)
    ช่วงเช้า

    10.00 น.          คณะพร้อมกัน ณ อาคารผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศชั้น4 สนามบินสุวรรณภูมิเคาน์เตอร์สายการบินสวิส อินเตอร์เนชั่นแนล แอร์ไลน์ (LX) พบเจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ คอยให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวก

    ช่วงบ่าย

    13.20 น.          ออกเดินทางสู่สนามบินเมืองซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดยสายการบินสวิส อินเตอร์เนชั่นแนล แอร์ไลน์ (LX) เที่ยวบินที่ LX181 (13.20-19.26) ใช้ระยะเวลาในการเดินทางประมาณ 12.05 ชั่วโมง บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง 

    ช่วงเย็น/ค่ำ

    19.25 น.         เดินทางถึงสนามบินเมืองซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 5 ชั่วโมง)

    หลังผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมืองนำท่านเดินทางเข้าสู่โรงแรมที่พัก ที่เมืองซูริค (Zurich) เมืองที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ (Switzerland) และยังเป็นเมืองศูนย์กลางทางเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศและของทวีปยุโรป ซูริคขึ้นชื่อเรื่องมนต์เสน่ห์ของเมืองยุโรปโบราณที่มีงานสถาปัตยกรรมแบบเก่ากระจัดกระจายอยู่รายล้อมเมือง ในขณะเดียวกันก็เป็นเมืองที่มีความเจริญทางเทคโนโลยีสมัยใหม่และถูกยกให้เป็นหนึ่งในอันดับต้นๆ ของเมืองที่มีคุณภาพชีวิตดีที่สุดในโลก

    พักที่ Hotel Hyatt Regency Zurich Airport Circle หรือเทียบเท่าระดับ 4 ดาว

    จุดเริ่มต้น
    สนามบินสุวรรณภูมิ
  2. วันที่ 2
    ชูริค-ซาร์ฟเฮาเซน-น้ำตกไรน์-เซนต์ กัลเลน-วาดุ๊ซ
    ช่วงเช้า

    รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม

    นำท่านเดินทางสู่ เมืองซาร์ฟเฮาเซน (Schaffhausen) เป็นเมืองทางตอนเหนือของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เป็นเมืองหลวงของรัฐชัฟเฮาเซิน มีประชากรราว 34,587 คน ในเดือนธันวาคม ค.ศ. 2008 มีอาคารเก่าในสมัยฟื้นฟูศิลปวิทยาหลายแห่ง ประดับประดาภายนอกด้วยศิลปะเฟรสโกและประติมากรรม มีน้ำตกไรน์ เป็นแหล่งท่องเที่ยว นำท่านเที่ยวชม น้ำตกไรน์ (Rhinefall) เป็นน้ำตกที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป ด้วยความสูงของน้ำตก 23 เมตร และกว้างกว่า 150 เมตร น้ำตกไรน์นี้ เป็นน้ำตกโบราณ มีอายุเก่าแก่มากประมาณ 14,000 – 17,000 ปี และ เป็นน้ำตกที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปและเป็นน้ำตกที่เกิดจากแม่น้ำไรน์ อยู่ระหว่างเมืองเล็กๆ ชื่อ Neuhausen am Rheinfall กับ เมือง Laufen-Uhwiesen ใกล้ๆเมือง เมืองซาร์ฟเฮาเซน (Schaffhausen) ทางตอนเหนือของประเทศสวิตเซอร์แลนด์

    นำท่านเดินทางสู่เมืองเซนต์ กัลเลน(St. Gallen) ใกล้กับชายแดนประเทศออสเตรีย ที่ได้รับยกย่องจากองค์การยูเนสโก้ขึ้นทะเบียนมรดกโลก เป็นเมืองที่มีสถาปัตยกรรมเก่าแก่ที่ควรค่าแก่การเยี่ยมชม

    ช่วงเที่ยง

    รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร เมนูหมูย่างบนหินร้อน

    ช่วงบ่าย

    นำท่านออกเดินทางสู่ เมืองวาดุ๊ซ (Vaduz)  เมืองหลวงของรัฐอิสระลิกเตนสไตน์ ที่มีเจ้าชายเชื้อสายปกครองมากกว่า 200 ปี ผ่านชมพิพิธภัณฑ์ตราไปรษณียากร (Postmuseum Vaduz) ตั้งอยู่ชั้นสองของตัวอาคาร ด้านในจัดแสดงประวัติความเป็นมาของแสตมป์ ตัวอย่างแสตมป์ที่มีชื่อเสียงจากทั่วโลก แท่นพิมพ์ในการผลิตแตมป์ เลือกซื้อแสตมป์ซึ่งเป็นของสะสมที่มีชื่อเสียงของเมืองนี้  แวะถ่ายรูปปราสาทวาดุซ (Vaduz Castle) เป็นปราสาทที่พำนักของราชวงศ์แห่งลิกเตนสไตน์ ตั้งตระหง่านอยู่เหนือเมืองหลวงวาดุซประมาณ 120 เมตร ที่นี้ยังเคยเป็นที่ประทับแบบถาวรของเจ้าชายฟรานซ์โจเซฟที่ 2 และครอบครัว ในปี พ.ศ.2482 อีกด้วย ชมด้านนอก วิหารเซนต์ฟลอริน (St.Florin Cathedral) หรือวิหารวาดุซ เป็นสถานที่สำคัญที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดในเมืองวาดุซ สร้างขึ้นในปี พ. ศ. 2417 ด้วยสถาปัตยกรรมนีโอโกธิค ด้านนอกของวิหารมีหอคอยที่มีลักษณะเรียบง่ายและเป็นโบสถ์ที่ธรรมดามาก แต่เป็นสถานที่มีความสำคัญทางศาสนาที่สำคัญของเมืองวาดุซ 

    ช่วงเย็น/ค่ำ

    รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร

    ที่พัก Hotel Residence, Vaduz หรือเทียบเท่าระดับ 4 ดาว

  3. วันที่ 3
    วาดุ๊ซ-เซนต์มอริทซ์-รถไฟเบอร์นินา เอ็กซ์เพรส-ทีราโน(อิตาลี)-โคโม
    ช่วงเช้า

    รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม

    นำท่านเดินทางสู่ เมืองเซนต์มอริทซ์ (St.Moritz) เมืองตากอากาศ และศูนย์กลางกีฬาสกีที่มีชื่อเสียงระดับโลก โดยตัวเมืองนั้นตั้งอยู่ในรัฐเกราบึนเดิน (Graubunden) เป็นรัฐที่ใหญ่ที่สุด และอยู่ทางตะวันออกสุดของประเทศ ตั้งอยู่บนยอดที่สูงที่สุดของเทือกเขาแอลป์ นำท่านถ่ายรูปความงดงามของทะเลสาบเซนต์มอริทซ์ (Lake St.Moritz) ซึ่งถ้าหน้าร้อนน้ำในทะเลสาบจะเป็นสีเขียวมรกต แต่ว่าถ้าหน้าหนาวทะเลสาบจะกลายเป็นน้ำแข็งทั้งหมด แล้วนำท่านเดินชม เมืองบริเวณย่านเมืองเก่า หรือช้อปปิ้งบริเวณจัตุรัสใจกลางเมือง (Plazza da scoula)

    ช่วงเที่ยง

    รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

    ช่วงบ่าย

    นำท่าน นั่งรถไฟสายโรแมนติกเบอร์นินาเอกซ์เพรส (Bernina Express) ซึ่งเป็นรถไฟชมวิวแบบพาโนรามาที่มีชื่อเสียงที่สุดของประเทศสวิสเซอร์แลนด์เพลิดเพลินกับบรรยากาศทิวทัศน์ที่สวยงามของ ภูเขาหิมะ ทะเลสาบ ทุ่งหญ้า หมู่บ้านที่สวยงามตั้งเรียงรายกระจัดกระจาย เป็นภาพที่น่าประทับใจเป็นอย่างยิ่ง และผ่านเส้นทางหลายจุดที่ถูกประกาศให้เป็น “เส้นทางสายมรดกโลก” ระหว่างการเดินทางรถไฟจะแล่น ผ่าน เกลเชอร์ข้ามเทือกเขาแอลป์ ที่ระดับความสูง 7,390 ฟิต ท่านจะได้สัมผัส และพูดได้เต็มปากว่าได้ชมทิวทัศน์ที่สวยที่สุดของสวิตเซอร์แลนด์มาแล้ว ทิวทัศน์สองข้างทางจะเปลี่ยนไปทุกนาทีอุโมงค์ลอดใต้ภูเขาทั้งลูก สะพานสูงข้ามเหวลึก และธารน้ำแข็งที่อยู่ใกล้แค่เอื้อม เพลิดเพลินตลอดการเดินทางจนกระทั่งเข้าสู่ สถานีทิราโน (Tirano) (นั่งรถไฟประมาณ 2 ชั่วโมง / รถบัสนำกระเป๋าไปรอรับที่ปลายทาง) จากนั้นเดินทางต่อโดยรถโค้ช สู่เมืองโคโม (Como) เมืองศูนย์กลางอุตสาหกรรมผ้าไหมของอิตาลีที่มีชื่อเสียง และมีทะเลสาบโคโม (Lago di Como) ที่ได้ชื่อว่าเป็นทะเลสาบที่สวยงามที่สุดของอิตาลี เดินทางถึง เมืองโคโม ที่ล้อมรอบด้วยภูเขาสูงที่ยังมีป่าไม้เขียวชอุ่ม หลายจุดบนชายฝั่งเป็นช่องเขาแคบ และหน้าผาที่สวยงาม ทางเหนือของทะเลสาบ คือเทือกเขาแอลป์ยาวเหยียดสุดสายตาเป็นกำแพงธรรมชาติที่สร้างฉากหลังอันงดงามอลังการให้กับดินแดนบริเวณนี้ เทือกเขาแอลป์นั้นมีหิมะปกคลุมอยู่ตลอดปี จึงทำให้สามารถเล่นสกีหิมะได้ตลอดเวลา นี่คือจุดดึงดูดให้ผู้คนจากทั่วโลกหลั่งไหล มาท่องเที่ยว

    ช่วงเย็น/ค่ำ

    รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร

    ที่พัก Hotel Grand Imperiale Resort & Spa, Como หรือเทียบเท่าระดับ 4 ดาว

     

  4. วันที่ 4
    โคโม-มิลาน-มหาวิหารดูโอโม-แกลลอเรีย วิคเตอร์เอ็มมานูเอล-อินเทอร์ลาเกน
    ช่วงเช้า

    รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม

    จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองมิลาน (Milan) ใช้ระยะเวลาในการเดินทางประมาณ 3.17 ชั่วโมงเมืองใหญ่เป็นอันดับสองรองจากกรุงโรม ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศอิตาลี มิลานได้ชื่อว่าเป็นหลวงแห่งแฟชั่นชั้นนำของโลกอีกเมืองหนึ่ง เช่น เดียวกับปารีสและนิวยอร์ค อีกทั้งยังเป็นศูนย์กลางทางธุรกิจของประเทศอิตาลีอีกด้วย นำท่านสู่จุดศูนย์กลางอันศักดิ์สิทธิ์ของเมือง ถ่ายรูปด้านหน้า มหาวิหารดูโอโม (Duomo di Milano) แห่งเมืองมิลาน มหาวิหารนี้สร้างด้วยสถาปัตยกรรมแบบโกธิค ที่ถือว่ามีความใหญ่โตเป็นอันดับสามของโลก เริ่มสร้างในปี ค.ศ.  1386 แต่กว่าจะเสร็จต้องใช้เวลากว่า 400 ปี ด้านนอกมีหลังคายอดเรียวแหลมที่ทำจากหินอ่อนจำนวน 135 ยอด และมีรูปปั้นหินอ่อนจากสมัยต่างๆ กว่า 2,245 ชิ้น ยอดที่สูงที่สุดมีรูปปั้นทองขนาด 4 เมตรของพระแม่มาดอนน่าเป็นสง่า

    นำท่านอิสระกับการช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนมชื่อดังของโลก อาทิเช่น LV, PRADA, GUCCI, TOD’S เป็นต้น ที่แกลลอเรีย วิคเตอร์เอ็มมานูเอล (Galleria Vittorio Emanuele) ที่ตั้งร้าน Prada ร้านแรกของโลก ท่านสามารถถ่ายรูปเป็นที่ระลึกจากด้านในซึ่งเป็นอาคารกระจกที่เก่าแก่และสวยงาม

    ช่วงเที่ยง

    รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

    ช่วงบ่าย

    นำท่านเดินทางสู่ เมืองอินเทอร์ลาเคน (Interlaken) เมืองตากอากาศสวยงามพร้อมทะเลสาบ 2 แห่ง ที่ล้อมรอบด้วยขุนเขาของเทือกเขาสวิสแอลป์อิสระให้ท่านเดินเล่นพักผ่อน หรือได้มีเวลาในการช้อปปิ้งตามอัธยาศัย ท่านสามารถเลือกซื้อนาฬิกายี่ห้อดังหลากหลายที่ผลิตในสวิส ไม่ว่าจะเป็น Rolex, Omega, Chopard, Tag Heuer, Patek Philippe, Longines และอื่นๆ อีกมากมาย

    ช่วงเย็น/ค่ำ

    รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร

     พักที่  Hotel Lindner Grand Beau Rivage,Interlaken หรือเทียบเท่าระดับ 4 ดาว (จำนวน 2 คืน)

  5. วันที่ 5
    อินเทอร์ลาเคน-เมืองกรินเดลวัลด์-จุงเฟรา-หมู่บ้านอิทเซล์ทวาลด์
    ช่วงเช้า

    รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม

    นำท่านเดินทางสู่เมืองกรินเดลวัลด์(Grindelwald) เมืองสกีรีสอร์ทที่สวยที่สุดในโลกตั้งอยู่ในหุบเขารายล้อมด้วยภูเขาที่สวยงามเป็นสถานที่โรแมนติกที่สุด เมืองเล็กๆท่ามกลางโอบกอดของเทือกเขาแอลป์ที่แสนโรแมนติก นำท่านสู่สถานีใหม่ กรินเดลวาลด์ กรุนด์ (Grindelwald Grund Terminal) เพื่อนั่งกระเช้าลอยฟ้าใหม่ล่าสุด Eiger Express จุงเฟรา กระเช้านี้ใช้เวลาในการเดินทางจากสถานีกรินเดลวาลด์กรุนด์ สู่สถานีไอเกอร์เกลตเชอร์เพียง 15 นาที และเปลี่ยนขึ้นรถไฟสู่ยอดจุงเฟรายอค (Jungfraujoch Top of Europe) ได้ในเวลาไม่เกิน 45 นาที ประหยัดเวลาจากการเดินทางโดยรถไฟ แบบเดิมไปถึง 47 นาที (โดยสารรถไฟจากกรินเดลวาลด์สู่ไคลเน่ ไชเดกก์ เพื่อต่อรถไฟจุงเฟราไปยังสถานีจุงเฟรายอค) ชมยอดเขาจุงเฟรา(Jungfrau) TOP OF EUROPE เมื่อถึงยอดเขาแล้วท่านจะได้สัมผัสกับทัศนียภาพอันงดงามของยอดเขามากมายที่ปกคลุมด้วยหิมะ ชมถ้ำน้ำแข็ง 1,000 ปี ที่มีอายุเก่าแก่กว่า 1,000 ปี ชมงานแกะสลักน้ำแข็งที่สวยงามอยู่ใต้ธารน้ำแข็ง 30 เมตร เก็บภาพความสวยงามและยิ่งใหญ่ของธารน้ำแข็ง Aletsch ที่ยาวที่สุดในเทือกเขาแอลป์ จากนั้นอิสระให้ท่านได้สัมผัสและเล่นสนุกกับการเล่นหิมะอย่างเต็มที่เก็บภาพที่ระลึกบนลานกว้างที่เต็มไปด้วยหิมะขาวโพลนให้ท่านได้สนุกสนานอย่างเต็มอิ่ม

    ช่วงเที่ยง

    รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารบนจุงเฟราพร้อมวิวเขาแสนสวย

    ช่วงบ่าย

    นำท่านเดินทางสู่ หมู่บ้านอิเซล์ทวาลด์ หมู่บ้านเล็กๆ ริมทะเลสาบ เบรียนซ์(Brienz Lake) วิวสวยอีกแห่งของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ชมความสวยงามระหว่างทาง และ เมืองน่ารัก หลายที่ตั้งอยู่ติดกับริมทะเลสาบ จากนั้นตามรอยซีรี่ย์ดัง Crash Landing On You ที่ สะพานอิเซล์ทวาลด์(Iseltwald Bridge) ซึ่งตั้งอยู่ทางฝั่งใต้ของทะเลสาบเบรียนซ์(Lake Brienz) วิวสวยธรรมชาติแบบสุด เรียกว่าหันหน้าทะเลสาบหันหลังคือเทือกเขา ให้ท่านเก็บภาพอย่างจุใจ จากนั้นนำท่านเดินทางกลับสู่ เมืองอินเทอร์ลาเคน(Interlaken) ให้ท่านได้อิสระเลือกเลือกซื้อสินค้าที่ระลึกจากสวิสเซอร์แลนด์ อาทิ มีดพับ, ช็อคโกแลต, นาฬิกายี่ห้าดัง

    ช่วงเย็น/ค่ำ

    รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร

    พักที่  Hotel Lindner Grand Beau Rivage, Interlaken  หรือเทียบเท่าระดับ 4 ดาว

  6. วันที่ 6
    เบิร์น-บ่อหมีสีน้ำตาล-โลซานน์-เวเว่ย์-มองเทรอซ์-ปราสาทชิลยอง-แทสซ์-เซอร์แมท
    ช่วงเช้า

    รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม

    นำท่านเดินทางสู่เมืองเบิร์น (Bern) เมืองหลวงของสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่ง Bern แปลว่า  Bear หรือ หมี นั่นเอง นำท่านเยี่ยมชมเมืองเบิร์น ซึ่งเป็นเมืองเก่าแก่ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก ผ่านชม เซนทรัม พอล คลี(Zentrum paul klee) เป็นพิพิธภัณฑ์ที่ทุ่มเทให้กับศิลปิน พอลคลี เป็นการออกแบบของสถาปนิกชาวอิตาเลียน ซึ่งงานภาพประมาณ 40% ในพิพิธภัณฑ์นี้ เป็นของ พอลคลี นำท่านเดินทางสู่บ่อหมีสีน้ำตาล(Bear Park) สัตว์ที่เป็นสัญลักษณ์ของเมือง

    ช่วงเที่ยง

    รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

    ช่วงบ่าย

    นำท่านผ่านชมเมืองโลซานน์ (Lausanne) เป็นเมืองที่มีเสน่ห์โดยธรรมชาติมากที่สุดเมืองหนึ่งของสวิตเซอร์แลนด์ มีประวัติศาสตร์อันยาวนานตั้งแต่ศตวรรษที่ 4 เมืองโลซานน์ตั้งอยู่บนเนินเขาริมฝั่งทะเลสาบเลอมังค์ จึงมีความสวยงามโดยธรรมชาติ ทิวทัศน์ที่สวยงาม และอากาศที่ปราศจากมลพิษ ซึ่งในอดีตเป็นที่ประทับของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี และบุตรธิดาที่สามพระองค์ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล รัชกาลที่ 8 และพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9  ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ระยะเวลาสองปี ระหว่างปี พ.ศ. 2476-2478 นำท่านแวะถ่ายรูป Olymic Museum Lausanne เนื่องจากเมืองโลซานน์นี้เป็นที่ตั้งของสำนักงานใหญ่คณะกรรมการโอลิมปิคสากล หรือ IOC เมืองนี้จึงได้ชื่อว่าเป็นเมืองหลวงแห่งโอลิมปิค แล้วก็มีการสร้างพิพิธภัณฑ์โอลิมปิคริมทะเลสาบเจนีวา

    นำท่านสู่เมืองเวเว่ย์(Vevey) เป็นอีกเมืองที่สวยน่ารักตั้งอยู่ในรัฐโวของสวิตเซอร์แลนด์ โดยตัวเมืองตั้งอยู่บนชายฝั่งทางตอนเหนือของทะเลสาบเจนีวา ความสวยงามและความมีชื่อเสียงของเวเว่ย์มีมาก ต่างก็ขนานนามเวเว่ย์ ให้เป็น ไข่มุกแห่งริเวียร่าสวิส PEARLS OF THE SWISS RIVIERA เพราะมีอากาศดี อบอุ่นเกือบทุกฤดูกาล แวะถ่ายรูปกับ อนุสาวรีย์ชาลี แชปลิน ดาวตลกค้างฟ้าชาวอังกฤษ มีผลงานสร้างชื่อเสียงในอเมริกา นำท่านเดินทางต่อสู่ เมืองมองเทรอซ์(Montreux) เมืองเล็กๆที่ตั้งอยู่บนชายฝั่งทะเลสาบเจนีวา นำท่านถ่ายรูปด้านหน้า ปราสาทชิลยอง(Chillon Castle) ปราสาทที่ตั้งอยู่บนทะเลสาบเจนีวา อดีตถูกครอบครองโดยบ้านของซาวอยต่อมาถูกครอบครองโดยชาวเบอร์นีส ปัจจุบันเป็นของรัฐโวด์และถูกจัดให้เป็นสวิสทรัพย์สินทางวัฒนธรรมของชาติ นำท่านชมท้องพระโรงที่เคยเป็นห้องจัดเลี้ยงรับรอง นอกจากนั้นก็มีห้องเก็บเสบียง อาหาร ห้องเก็บไวน์ ห้องครัวขนาดใหญ่ที่มีเตาผิง ถ้วยโบราณ และ อุปกรณ์ทำอาหารจัดเรียงเอาไว้ อีกห้องที่น่าสนใจคือ ส่วนของหอสวดมนต์เป็นอาคารหลังเล็กที่หาดูได้ยากในปัจจุบัน ที่ดูลึกลับ และน่ากลัวสุดคือ ห้องใต้ดินที่เคยเป็นที่คุมขังฟรังซัวส์ โบนิวาร์ด ผู้ซึ่งเป็นทั้งนักบวชและนักการเมืองเรียกร้องให้ประชาชนลุกขึ้นมาต่อสู้ให้เจนีวาเป็นอิสระจากซา วอย จนสร้างแรงบันดาลใจของบทประพันธ์ The Prisoner of Chillon นั่นเอง

    นำท่านเดินทางสู่เมืองแทสซ์(Tasch) เพื่อต่อรถไฟเข้าสู่เมืองเซอร์แมท(Zermatt) หมู่บ้านในสกีรีสอร์ทยอดนิยมของชาวสวิส ที่ต้องเดินทางโดยสารรถไฟเท่านั้น ซึ่งปลอดมลภาวะทั้งปวง เพราะไม่มีรถยนต์ที่ใช้น้ำมันเป็นเชื้อเพลิง ทั้งเมืองใช้รถแบตเตอร์รี่ จักรยาน และเดินเท่านั้น

    นำท่านเดินสู่จุดชมวิวของเมืองเซอร์แมท ที่เห็นทั้งตัวเมืองเซอร์แมทและฉากหลังเป็นยอดเขาแมทเทอร์ฮอร์น(Matterhorn) อิสระทุกท่านเดินเล่นชมเมืองสูดบรรยากาศอันแสนบริสุทธิ์ สัมผัสบรรยากาศรอบข้างและบ้านเรือนก็แสนจะโรแมนติก

    ช่วงเย็น/ค่ำ

    รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร

    พักที่ Gornergrat Dorf Hotel, Zermatt (จำนวน 2 คืน)

     

  7. วันที่ 7
    เซอร์แมท-ยอดเขากอร์นาแกรท
    ช่วงเช้า

    รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม

    อรุณสวัสดิ์กับอากาศที่บริสุทธิ์นำท่านสู่สถานีรถไฟกอร์นาแกรท(Gornergrat Bahn)  ให้ท่านได้ตื่นตาตื่นใจกับการนั่งรถไฟฟันเฟืองสู่ยอดเขากอร์นาแกรท(Gornergrat) ตื่นตาตื่นใจกับยอดเขาแมท  เทอร์ฮอร์นซึ่งท่านสามารถเห็นอยู่แค่เอื้อมชื่นชมกับทิวทัศน์เหนือม่านเมฆ เพลิดเพลินกับทิวทัศน์อันงดงามของหิมะซึ่งปกคลุมยอดเขาตัดกับสีฟ้าเข้มของท้องฟ้า นำท่านสู่ลานหิมะอันกว้างใหญ่ สนุกสนานกับการเล่นหิมะ และชมบรรยากาศของยอดแมทเทอร์ฮอร์น(Matterhorn) ยอดเขาทรงพีระมิดที่มีปลายคุ้มงอเหมือนตะขอแปลกตาจนราชาการ์ตูนวอล์ทดิสนีย์นำไปเป็นแบบเครื่องเล่นบิ๊กธันเดอร์ Big Thunder ในสวนสนุกดิสนีย์แลนด์ ตลอดจนทิวทัศน์โดยรอบที่สวยงาม

    ช่วงเที่ยง

    รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

    ช่วงบ่าย

    รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

    ช่วงเย็น/ค่ำ

    รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร

    พักที่ Hotel Gornergrat Dorf, Zermat หรือเทียบเท่าระดับเดียวกัน

  8. วันที่ 8
    เซอร์แมท-นั่งรถไฟกลาเซียร์ เอ็กซ์เพรส-อันเดอร์แมท-ลูเซิร์น
    ช่วงเช้า

    รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม

    นำท่านนั่งรถไฟกลาเซียร์เอ็กซ์เพรส(Glacier Express) ซึ่งได้รับการขนานนามว่า “รถไฟด่วนที่วิ่งช้าที่สุดในโลก” ท่านจะได้ชื่นชมกับสายธาร และขุนเขาที่สลับซับซ้อนสวยงามเกินคำบรรยาย ในระหว่างการเดินทางท่านจะได้สัมผัสกับทิวทัศน์อันงดงามดุจภาพวาดของสวิสตอนกลาง สัมผัสความงามตลอด 2 ข้างทาง ด้วยระยะทางเกือบ 3 ชั่วโมง  จนถึงเมืองอันเดอร์แมท(Andermatt)  เมืองเล็กๆน่ารักอีกเมืองชุมทางรถไฟสายกลาเซียร์ นำท่านชมเมืองแสนสวยเล็กๆ ที่น่ารักในหุบเขาที่แปลว่ามุ่งเขียวขจี

    ช่วงเที่ยง

    รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

    ช่วงบ่าย

    นำท่านเดินทางสู่เมืองลูเซิร์น(Luzern) เมืองพักตากอากาศที่ได้ชื่อว่านักท่องเที่ยวบันทึกภาพไว้มากที่สุด มีทะเลสาบ ภูเขา ที่สวยงามท่ามกลางหุบเขา มองไปทางไหนก็จะเห็นภูเขาโอบล้อม

    นำท่าน ชมทะเลสาบลูเซิร์น (Cruise lucerne lake) ทะเลสาบที่ตั้งอยู่ท่ามกลางหุบเขา โอบล้อมไปด้วยอ้อมกอดแห่งเทือกเขาธรรมชาติและอาคารบ้านเรือนรูปทรงน่ารักสะดุดตา แต่งแต้มให้เกิดทัศนียภาพอันสวยงาม และให้กลิ่นอายแห่งความเป็นเมืองแห่งขุนเขาได้เป็นอย่างดี

    นำท่านถ่ายรูปคู่กับ อนุสาวรีย์สิงโต(Lion Monument) ซึ่งแกะสลักอยู่บนหน้าผาของภูเขาในเมืองเป็นสัญลักษณ์ให้ระลึกถึงทหารรับจ้างชาวสวิส ซึ่งทำงานเป็นทหารรักษาพระองค์พระเจ้าหลุยส์ที่ 16 แห่งฝรั่งเศส

    จากนั้นชม สะพานไม้ชาเปล(Chapel bridge) ซึ่งข้ามแม่น้ำรอยซ์(Reuss River) เป็นสะพานไม้ที่เก่าที่สุดในโลกมีอายุหลายร้อยปี เป็นสัญลักษณ์และประวัติศาสตร์ของสวิส สะพานไม้ชาเปลเป็นสะพานที่แข็งแรงมากมุงหลังคาแบบโบราณ เชื่อมต่อไปยังป้อมแปดเหลี่ยมกลางน้ำ ที่จั่วแต่ละช่องของสะพานจะมีภาพเขียนเป็นเรื่องราวประวัติความเป็นมาของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เป็นภาพเขียนเก่าแก่อายุกว่า 400 ปีแล้ว ให้ท่านอิสระเพลิดเพลินกับการช้อปปิ้งที่มีร้านตัวแทนจำหน่ายนาฬิกาชื่อดัง อาทิ บุคเคอเรอร์ กือเบอลิน เอ็มบาสซี่ ร้านขายของที่ระลึก ร้านช็อคโกแล็ตและช้อปปิ้งสินค้าชั้นดี ที่มีชื่อเสียงตามอัธยาศัย

    ช่วงเย็น/ค่ำ

    รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร

    พักที่ Hotel Radisson Blu, Lucerne หรือเทียบเท่า

  9. วันที่ 9
    ลูเซิร์น-ซุก-ซูริค-สนามบิน
    ช่วงเช้า

    รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม

    นำท่านเดินทางสู่ เมืองซุก (Zug) เมืองเก่าที่คงความสวยงามของพื้นหินแบบยุโรปในยุคกลาง ชม หอนาฬิกาดาราศาสตร์(Clock Tower) ที่เปรียบสเหมือนสัญญลักษณ์ของเมือง ซึ่งถูกสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 13 นำท่านชม โบสถ์เซนท์ออสวอร์ล (St Oswald’s church) โบสถ์ศ์กดิ์สิทธิ์ที่สำคัญของเมือง ตัวโบสถ์สร้างขึ้นตั้งแต่ ค.ศ. 1478 ใช้เวลาการก่อสร้างนานถึง 6 ปี ถือเป็นหนึ่งใน สถาปัตยกรรมที่สำคัญที่สุดในช่วงโกธิคตอนปลายแห่งหนึ่งในสวิตเซอร์แลนด์ เมืองแห่งนี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นเมืองที่สะอาดที่สุดในยุโรป และมีพระอาทิตย์ตกดินสวยที่สุดในสวิสเซอร์แลนด์

    นำท่านเดินทางสู่ เมืองซูริค(Zurich) ศูนย์กลางการเงิน เศรษฐกิจ และการธนาคารของยุโรปซึ่งมอบชีวิตชีวาให้แก่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ชมความสวยงามของ โบสถ์เซนต์ปีเตอร์(St.Peter Church) โบสถ์แห่งนี้มีจุดเด่นอยู่ที่นาฬิกาซึ่งเป็นนาฬิกาที่มีขนาดใหญ่ที่สุดกว่าโบสถ์อื่นๆ ในยุโรป จากนั้นนำท่านช้อปปิ้ง บาห์นฮอฟสตราสเซอ (Bahnhofstrasse)ถนนการค้าทีได้ชื่อว่าแพงและหรูหราที่สุดในโลก เพราะว่าทั้งสองฝั่งถนนเป็นร้าน Brandname ระดับโลกดังๆ ตั้งอยู่มากมาย อาทิเช่นร้านเสื้อผ้า เครื่องประดับ กระเป๋า นาฬิกายี่ห้อดังอย่าง Bucherer , Rolex และยี่ห้ออื่นๆอีกมากมาย ถนนเส้นนี้มีร้านขายนาฬิกาเป็นจำนวนมาก ประมาณว่าแทบจะเป็นแหล่งรวมนาฬิกาชั้นนำของโลก ที่สมกับคำเล่าลือว่า “จะหานาฬิกาดีๆ ต้องมาที่สวิตเซอร์แลนด์”

    ช่วงเที่ยง

    รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

    ช่วงบ่าย

    ได้เวลาพอสมควร นำท่านเดินทางสู่สนามบินซูริค เพื่อตรวจเช็คเอกสารการเดินทางและสัมภาระเตรียมตัวเดินทางกลับ

    ช่วงเย็น/ค่ำ

    ได้เวลาพอสมควร นำท่านเดินทางสู่สนามบินซูริค เพื่อตรวจเช็คเอกสารการเดินทางและสัมภาระเตรียมตัวเดินทางกลับ

  10. วันที่ 10
    กรุงเทพฯ (สนามบินสุวรรณภูมิ)
    ช่วงเช้า

    10.40 น.          เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ

    จุดสิ้นสุด
    สนามบินสุวรรณภูมิ

ค่าทัวร์นี้รวมอะไรบ้าง

ค่าทัวร์นี้รวม

ค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับ แบบหมู่คณะ
ค่าที่พักห้องละ 2-3 ท่าน ตามโรงแรมที่ระบุไว้ในรายการ
ค่าอาหาร ค่าเข้าชม และ ค่ายานพาหนะทุกชนิด ตามที่ระบุไว้ใน
ค่าประกันภัยอุบัติเหตุระหว่างการเดินทางเป็นไปตามเงื่อนไขที่กรมธรรม์กำหนด
ค่ากระเป๋าสัมภาระเป็นไปตามสายการบินกำหนด

ค่าทัวร์นี้ไม่รวม

ค่าใช้จ่ายส่วนตัวของผู้เดินทาง
อาทิเช่น ค่าธรรมเนียมคารจัดทำหนังสือเดินทาง ค่าเครื่องดื่มที่สั่งพิเศษ, ค่าโทรศัพท์, ค่าซัครีด, ค่าน้ำหนักกระเป๋าเดินจาคทางสายคารบินคำหนดและมากกว่า 1 ใบ. ค่ารักษาพยาบาล กรณีเกิดการเจ็บป่วยจากโรคประจำตัว, ค่ากระเป๋าเดินทางที่ชำรุด หรือของมีค่าที่สูญหายในระหว่างการเดินทาง เป็นต้น
ค่าทิปคนขับรถ หัวหน้าทัวร์และมัคคุเทศก์ท้องถิ่น
ค่าอาหารที่ไม่ได้ระบุไว้ในรายการ และสำหรับราคานี้ทางบริษัทจะไม่รวมค่าภาษีท่องเที่ยวหากมีการเก็บเพิ่ม
ไม่รวมค่าตรวจหาเชื้อ RT-PCR ของลูกค้า อย่างน้อย 72 ชม.
ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7%, ค่าภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3%

ช่วงการเดินทาง

ดูเพิ่มเติม

เงื่อนไขทัวร์

  1. เงื่อนไขและข้อควรทราบ (Terms and Conditions)
    1. ชำระเงินมัดจำท่านละ 50,000 บาท ภายหลังจากที่ท่านส่งเอกสารการจองภายใน 2 วัน โดยโอนเข้าบัญชี ที่นั่งจะยืนยันเมื่อได้รับเงินมัดจำแล้วเท่านั้น
    2. ส่วนที่เหลือชำระ 30 วัน ก่อนการเดินทาง เฉพาะวันหยุดยาวและนักขัตฤกษ์ ชำระส่วนที่เหลือ 45 วันก่อนการเดินทาง เนื่องจากทางบริษัทต้องสำรองค่าใช้จ่ายในส่วนของค่าที่พักและตั๋วเครื่องบิน มิฉะนั้นจะถือว่าท่านยกเลิกการเดินทางโดยอัตโนมัติ
      • หากไม่ชำระมัดจำตามที่กำหนด ขออนุญาตตัดที่นั่งให้ลูกค้าท่านอื่นที่รออยู่
      • หากชำระไม่ครบตามจำนวน บริษัทฯ ถือว่าท่านยกเลิกการเดินทางโดยอัตโนมัติ โดยไม่มีเงื่อนไข
      • เมื่อท่านชำระเงินแล้ว ไม่ว่าจะทั้งหมดหรือบางส่วน ทางบริษัทฯ ถือว่าท่านได้ยอมรับเงื่อนไขและข้อตกลงต่างๆที่ได้ระบุไว้ทั้งหมดนี้แล้ว
    3. ส่งสำเนาหน้าพาสปอร์ตของผู้ที่เดินทาง ที่มีอายุการใช้งานไม่น้อยกว่า 6 เดือนและเหลือหน้ากระดาษอย่างต่ำ 2 หน้า เพื่อทำการสำรองที่นั่งภายใน 2 วัน นับจากวันจอง หากไม่ส่งสำเนาหน้าพาสปอร์ตทางบริษัทขออนุญาตยกเลิกการจองทัวร์โดยอัตโนมัติ
    4. เมื่อได้รับการยืนยันว่ากรุ๊ปออกเดินทางได้ ลูกค้าสามารถจัดเตรียมเอกสารในการขอวีซ่าได้ทันที
    5. หากท่านที่ต้องการออกตั๋วโดยสารภายในประเทศ (กรณีลูกค้าอยู่ต่างจังหวัด) ให้ท่านติดต่อเจ้าหน้าที่ ก่อนออกบัตรโดยสารทุกครั้ง หากออกบัตรโดยสารโดยมิแจ้งเจ้าหน้าที่ ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ไม่รับผิดชอบ ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น
    6. การยื่นวีซ่าในแต่ละสถานทูตมีการเตรียมเอกสาร และมีขั้นตอนการยื่นวีซ่าไม่เหมือนกัน ทั้งแบบหมู่คณะและยื่นรายบุคคล (แสดงตน) ท่านสามารถสอบถามข้อมูลเพื่อประกอบการตัดสินใจก่อนการจองได้จากทางเจ้าหน้าที่
    7. กรณีวีซ่ายังไม่ทราบผลก่อนเดินทาง 30 วันทำการ ทางบริษัทฯต้องขอเก็บค่าทัวร์ทั้งหมดก่อน ตามกำหนดเงื่อนไขการชำระเงิน แต่หากวีซ่าของท่านไม่ผ่านการพิจารณาจากทางสถานทูตไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม ทางบริษัทจะคืนเงินค่าทัวร์ให้ท่าน โดยทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการหักค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง
    8. หากท่านจองและส่งเอกสารในการทำวีซ่าเข้าประเทศล่าช้า ไม่ทันกำหนดการออกตั๋วกับทางสายการบินและผลของวีซ่าของทางไม่ผ่าน บริษัทฯ จะขอสงวนสิทธิ์ในการไม่คืนเงินค่ามัดจำทั้งหมด
    9. หากในคณะของท่านมีผู้ต้องการดูแลพิเศษ นั่งรถเข็น (Wheelchair), เด็ก, ผู้สูงอายุ, มีโรคประจำตัว หรือไม่สะดวกในการเดินทางท่องเที่ยวในระยะเวลาเกินกว่า 4-5 ชั่วโมงติดต่อกัน ท่านและครอบครัวต้องให้การดูแลสมาชิกภายในครอบครัวของท่านเอง เนื่องจากการเดินทางเป็นหมู่คณะ หัวหน้าทัวร์มีความจำเป็นต้องดูแลคณะทัวร์ทั้งหมด
  2. เงื่อนไขการยกเลิก
    1. ยกเลิกการเดินทาง 45 วัน ไม่เก็บค่าใช้จ่าย (ในกรณีวันเดินทางตรงกับเทศกาลหรือหยุดยาว เช่น สงกรานต์ / ปีใหม่ เป็น 60 วัน) หรือ หักค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง (ถ้ามี)
    2. ยกเลิกก่อนการเดินทาง 30 วัน คืนเงิน 100% ของค่าทัวร์ที่จ่ายมาแล้ว หรือ หักค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง เช่น ค่ามัดจำตั๋วเครื่องบิน, ค่ามัดจำโรงแรม, ค่าวีซ่า (ถ้ามี)
    3. ยกเลิกก่อนการเดินทาง 15–29 วัน คืนเงิน 50% ของค่าทัวร์ที่จ่ายมาแล้ว และหักค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง เช่น ค่ามัดจำตั๋วเครื่องบิน, ค่ามัดจำโรงแรม, ค่าวีซ่า (ถ้ามี)
    4. ยกเลิกก่อนการเดินทางน้อยกว่า 15 วัน ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ไม่คืนเงินค่าทัวร์ที่ชำระแล้วทั้งหมด
    5. หากมีการยกเลิกการเดินทางโดยไม่ใช่ความผิดของบริษัททัวร์ ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ไม่รับผิดชอบและคืนค่าทัวร์ส่วนใดส่วนหนึ่งให้ท่านได้ไม่ว่ากรณีใดๆทั้งสิ้น เช่น สถานทูตปฏิเสธวีซ่า ด่านตรวจคนเข้าเมือง เอกสารปลอม นโยบายห้ามเข้าออกประเทศ ฯลฯ
    6. กรณียื่นวีซ่าแล้วไม่ได้รับการอนุมัติจากทางสถานทูต (วีซ่าไม่ผ่าน) และท่านได้ชำระค่าทัวร์ทั้งหมกดหรือค่ามัดจำมาแล้ว ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการหักค่าบริการ ค่ายื่นวีซ่า และค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง อาทิ เช่น กรณีออกตั๋วเครื่องบินแล้ว หรือได้ชำระค่าบริการในส่วนของทางต่างประเทศ เช่น โรงแรม ตั๋วรถไฟ เป็นต้น
    7. กรณีต้องการเปลี่ยนแปลงพีเรียดวันเดินทาง (เลื่อนวันเดินทาง) ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการหักค่าใช้จ่ายการดำเนินการต่างๆ ที่เกิดขึ้นจริงสำหรับการดำเนินการจองครั้งแรก ตามจำนวนครั้งที่เปลี่ยนแปลง ไม่ว่ากรณีใดๆ ทั้งสิ้น
  3. ข้อมูลเกี่ยวโรงแรมที่พัก
    1. รายการนี้เป็นเพียงข้อเสนอที่ต้องได้รับการยืนยันจากบริษัทอีกครั้ง หลังจากได้สำรองโรงแรมที่พักในต่างประเทศเรียบร้อยแล้ว โดยโรงแรมจัดในระดับใกล้เคียงกัน ซึ่งอาจจะปรับเปลี่ยนตามที่ระบุในโปรแกรม
    2. การจัดการห้องพัก เป็นสิทธิของโรงแรมในการจัดการห้องให้กับกรุ๊ปที่เข้าพัก โดยมีห้องพักสำหรับผู้สูบบุหรี่ / ปลอดบุหรี่ได้ โดยอาจจะขอเปลี่ยนห้องได้ตามความประสงค์ของผู้ที่พัก ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความพร้อมให้บริการของโรงแรม และไม่สามารถรับประกันได้
    3. สำหรับท่านที่พักห้อง 3 เตียง ขนาดของห้องพักขึ้นอยู่กับทางโรงแรมเป็นผู้จัดถือว่าท่านยอมรับข้อตกลงแล้ว
    4. เนื่องจากการวางแปลนแบบห้องพักของแต่ละโรงแรมแตกต่างกันอาจทำให้ห้องพักแบบห้องเดี่ยว (Single) และห้องคู่ (Twin/Double) และห้องพักแบบ 3 ท่าน/ 3 เตียง (Triple Room) ห้องแต่ละประเภทจะไม่ติดกันหรืออยู่คนละชั้น
    5. กรณีต้องการห้องพักแบบ 3 ท่านต่อห้อง หรือ ห้องแบบ 3 เตียง (Triple) โรงแรมมีห้อง Triple เพียงพอ ขอสงวนสิทธิ์ในการจัดห้องให้เป็นแบบ แยก 2 ห้อง คือ 1 ห้องพักคู่ และ 1 ห้องพักเดี่ยว โดยอาจจะมีค่าใช้จ่าย ขึ้นอยู่กับแต่ละโรงแรม
    6. กรณีที่มีงานจัดประชุมนานาชาติ (Trade Fair) เป็นผลให้ค่าโรงแรมสูงขึ้นมากและห้องพักในโรงแรมเต็ม (บางครั้งต้องจองโรงแรมข้ามปี) ทางบริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ในการปรับเปลี่ยนหรือย้ายเมืองเพื่อให้เกิดความเหมาะสม
    7. โรงแรมในยุโรปจะมีลักษณะ Traditional Building (อาจจะดูเก่าๆคลาสสิค) บางโรงแรมห้องที่เป็นห้องเดี่ยวอาจเป็นห้องที่มีขนาดกะทัดรัดและไม่มีอ่างอาบน้ำ ซึ่งอยู่ในการออกแบบของแต่ละโรงแรมนั้นๆ และแต่ละห้องอาจมีลักษณะแตกต่างกันด้วย
    8. โรงแรมหลายแห่งในยุโรป จะไม่มีเครื่องปรับอากาศเนื่องจากอยู่ในแถบที่มีอุณภูมิต่ำ เครื่องปรับอากาศจะมีในช่วงฤดูร้อนเท่านั้น
    9. บางโรงแรมไม่มีพนักงานยกกระเป๋าหรือบางครั้งอยู่ในเมืองเก่ารถโค้ชไม่สามารถเข้าถึงได้ท่านจะต้องนำสัมภาระของท่านเข้าห้องพักด้วยตัวท่านเอง
  4. ข้อมูลเกี่ยวกับสายการบิน
    1. ตั๋วเครื่องบินเป็นแบบหมู่คณะ ผู้โดยสารจะต้องเดินทางไป-กลับพร้อมกรุ๊ป หากต้องการเลื่อนวันเดินทางกลับท่าน จะต้องชำระค่าใช้จ่ายส่วนต่างของสายการบินและบริษัททัวร์เรียกเก็บ
    2. ทางบริษัทฯ ได้สำรองที่นั่งพร้อมชำระเงินมัดจำค่าตั๋วเครื่องบินเรียบร้อยแล้วหากท่านยกเลิกทัวร์ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุใดทางบริษัทฯขอสงวนสิทธิ์การเรียกเก็บค่ามัดจำตั๋วเครื่องบิน ซึ่งมีค่าใช้จ่ายแล้วแต่สายการบินและ ช่วงเวลาเดินทาง
    3. กรณีท่านยกเลิกการเดินทางและทางบริษัทฯได้ทำการออกตั๋วเครื่องบินไปแล้ว (กรณีตั๋ว Refund) ผู้เดินทางต้องเป็น ผู้รอเงิน Refund โดยปกติประมาณ 3 – 6 เดือน และเงิน Refund ที่ได้จะขึ้นอยู่กับแต่ระบบของสายการบินน้ัน ๆ เป็นผู้กำหนด
    4. บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการเก็บเงินเพิ่มเติมในกรณีที่สายการบินมีการปรับราคาภาษีน้ำมันเพิ่มเติมโดยมีเอกสารยืนยันจากทางสายการบิน
    5. การจัดที่นั่งบนเครื่องบินของกรุ๊ปข้อกำหนดเป็นไปโดยสายการบินเป็นผู้กำหนดซึ่งทางบริษัทไม่สามารถเข้าไปแทรกแซงได้ และทางบริษัทไม่อาจรับประกันได้ว่าท่านจะได้ที่นั่งตามที่ท่านต้องการได้
    6. กรณีท่านที่จะออกตั๋วบินภายในประเทศหรือกรณีท่านออกตั๋วเองกรุณาแจ้งบริษัทเพื่อขอคำยืนยันว่าทัวร์นั้นสามารถ ออกเดินทางได้แน่นอน มิฉะนั้นทางบริษัทจะไม่รับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น
    7. ที่นั่ง Long Leg ทางบริษัทไม่สามารถรีเควสให้ได้จะขึ้นกับข้อกำหนดของสายการบินเป็นผู้กำหนด
    8. ท่านที่ใช้ไมล์หรือแต้มบัตรเครดิตแลกตั๋วท่านจะต้องเป็นผู้ดำเนินการด้วยตัวท่านเอง
    9. น้ำหนักกระเป๋าสัมภาระที่โหลดหรือถือขึ้นเครื่องสายการบินเป็นผู้กำหนดหากท่านมีน้ำหนักเกินกว่ากำหนดท่าน จะต้องเป็นผู้เสียค่าปรับนั้นเอง
    10. ทางบริษัทฯ ไม่รับผิดชอบกรณีเกิดการสูญเสีย, สูญหายของกระเป๋าและสัมภาระของผู้โดยสาร
    11. กรณีผู้เดินทางต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ อาทิเช่น ใช้วิลแชร์ กรุณาแจ้งบริษัทฯ ล่วงหน้าอย่างน้อย 7 วันก่อนเดินทาง มิฉะนั้นบริษัทฯ ไม่สามารถจัดการล่วงหน้าได้
  5. ข้อมูลเกี่ยวกับการยื่น VISA

    การอนุมัติวีซ่าเป็นเอกสิทธิ์ของสถานทูต ทางบริษัทไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆทั้งสิ้น ทั้งนี้บริษัทเป็นเพียงตัวกลางและคอยบริการอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้เดินทางเท่านั้น เงินค่าสมัครยื่นวีซ่าทางสถานทูตเป็นผู้เก็บ หากผลวีซ่า ออกมาว่าท่านไม่ผ่าน ทางสถานทูตจะไม่คืนเงินค่าวีซ่า และค่าบริการจากตัวแทนยื่นวีซ่าไม่ว่าในกรณีใดๆทั้งสิ้น และทางสถานทูตมีสิทธิ์ที่จะไม่ตอบเหตุผลของการปฏิเสธวีซ่าในทุกกรณี

    1. กรณีที่ท่านวีซ่าผ่านแต่กรุ๊ปออกเดินทางไม่ได้เนื่องจากผู้เดินทางท่านอื่นในกลุ่มโดนปฏิเสธวีซ่า ทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการไม่คืนเงินค่าวีซ่าและค่าบริการจากตัวแทนยื่นให้กับท่าน เนื่องจากเป็นค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นโดยสถานทูตเป็นผู้เรียกเก็บและท่านสามารถนำวีซ่าไปใช้เดินทางได้หากวีซ่ายังไม่หมดอายุ
    2. สำหรับท่านที่พำนักอาศัย ศึกษา หรือ ทำงานอยู่ต่างประเทศท่านจะต้องเป็นผู้ยื่นวีซ่าด้วยตัวท่านเอง ณ ประเทศที่ท่านพำนักอาศัยอยู่
    3. ท่านที่มีวีซ่าอยู่แล้วกรุณาแจ้งบริษัทเพื่อตรวจสอบว่าสามารถใช้ได้

รีวิวทัวร์